พระราชบัญญัติ สถาบันเทคโนโลยีการเกษตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2522 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2522 เป็นปีที่ 34 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสถาบันเทคโนโลยีการเกษตร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภาดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีการเกษตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2522"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีการเกษตร พ.ศ. 2518 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 7 สถาบันอาจแบ่งส่วนราชการดังนี้ (1) สำนักงานอธิการบดี (2) คณะ (3) บัณฑิตวิทยาลัย และอาจให้มีสำนักเพื่อการวิจัยหรือเพื่อส่งเสริมวิชาการเป็นส่วนราชการในสถาบันอีกก็ได้ สำนักงานอธิการบดี อาจแบ่งส่วนราชการเป็นกองและแผนกหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น คณะ อาจแบ่งส่วนราชการเป็นสำนักงานเลขานุการและภาควิชา บัณฑิตวิทยาลัยและสำนัก อาจมีสำนักงานเลขานุการได้ สำนักงานเลขานุการ อาจแบ่งส่วนราชการเป็นแผนกหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น"
มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีการเกษตร พ.ศ. 2518 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 23 ในแต่ละคณะ บัณฑิตวิทยาลัยหรือสำนัก ให้มีคณบดีหรือผู้อำนวยการสำนักคนหนึ่ง เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบในงานของคณะ บัณฑิตวิทยาลัยหรือสำนัก และจะมีรองคณบดีหรือ รองผู้อำนวยการสำนักคนหนึ่งหรือหลายคนก็ได้เพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบตามที่คณบดีหรือผู้อำนวยการ สำนักจะมอบหมาย แล้วแต่กรณี ถ้ามีการแบ่งภาควิชา ให้มีหัวหน้าภาควิชาเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบในงานของภาควิชา คณบดี ผู้อำนวยการสำนัก รองคณบดี รองผู้อำนวยการสำนักและหัวหน้าภาควิชา ให้แต่งตั้ง จากคณาจารย์ประจำของสถาบัน ผู้ซึ่งได้รับปริญญาจากสถาบันหรือได้รับปริญญาหรือเทียบเท่าใน สาขาวิชาที่มีการสอนในสถาบันจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอื่นหรือสถานศึกษาชั้นสูงอื่นที่สภาสถาบัน รับรอง โดยให้ดำรงตำแหน่งสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งสองวาระติดต่อ กันไม่ได้"
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีการเกษตร พ.ศ. 2518 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 24 ในแต่ละคณะ บัณฑิตวิทยาลัยหรือสำนัก ให้มีคณะกรรมการประจำคณะหนึ่ง ประ กอบด้วยคณบดีหรือผู้อำนวยการสำนักเป็นประธานกรรมการ และกรรมการซึ่งคณาจารย์ในภาควิชา เลือกตั้งจากคณาจารย์ในภาควิชานั้นภาควิชาละหนึ่งคน ถ้าไม่มีการแบ่งภาควิชา ให้สภาสถาบัน แต่งตั้งคณาจารย์ในคณะ บัณฑิตวิทยาลัยหรือสำนักแล้วแต่กรณี เป็นกรรมการเพิ่มเติมให้ได้จำนวน ไม่น้อยกว่าสี่คนแต่ไม่เกินเก้าคน ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่งแต่งตั้งกรรมการคนหนึ่งเป็นเลขานุการ กรรมการซึ่งคณาจารย์ในภาควิชาเลือกตั้ง และกรรมการซึ่งสภาสถาบันแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสี่ปี และอาจได้รับเลือกตั้งหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่อีกได้ ลักษณะของผู้รับเลือกตั้งตลอดจนหลักเกณฑ์ และวิธีการเลือกตั้งกรรมการจากคณาจารย์ใน ภาควิชาตามวรรคหนึ่ง ให้กำหนดเป็นข้อบังคับของสถาบัน"
มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีการเกษตร พ.ศ. 2518 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 34 ปริญญามีสามชั้น คือ เอก เรียกว่า ดุษฎีบัณฑิต ใช้อักษรย่อ ด. โท เรียกว่า มหาบัณฑิต ใช้อักษรย่อ ม. ตรี เรียกว่า บัณฑิต ใช้อักษรย่อ บ. สถาบันมีอำนาจให้ปริญญาในสาขาวิชาที่มีการสอนในสถาบัน การกำหนดให้สาขาวิชาใดมีปริญญาชั้นใด และจะใช้อักษรย่อสำหรับสาขาวิชานั้นอย่างไร ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา"
มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีการเกษตร พ.ศ. 2518 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 37 สถาบันมีอำนาจให้ปริญญากิตติมศักดิ์แก่บุคคลซึ่งสถาบันเห็นว่าทรงคุณวุฒิสมควร แก่ปริญญานั้น แต่จะให้ปริญญาดังกล่าวแก่คณาจารย์ประจำหรือกรรมการสภาสถาบันซึ่งดำรงตำ แหน่งอยู่ในวาระนั้นไม่ได้ ชั้น สาขาของปริญญา และวิธีการให้ปริญญากิตติมศักดิ์ ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสถาบัน"
มาตรา 8 ให้ยกเลิกความในมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีการเกษตร พ.ศ. 2518 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 38 สถาบันจะจัดให้มีครุยวิทยฐานะและเข็มวิทยฐานะเป็นเครื่องหมายแสดงวิทยฐานะ ของผู้ได้รับปริญญา ประกาศนียบัตรชั้นสูง อนุปริญญา และประกาศนียบัตร และอาจกำหนดให้มี ครุยประจำตำแหน่งกรรมการสภาสถาบัน หรือครุยประจำตำแหน่งคณาจารย์ของสถาบันก็ได้ การกำหนดลักษณะ ชนิด ประเภท และส่วนประกอบของครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะและ ครุยประจำตำแหน่ง ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะและครุยประจำตำแหน่งจะใช้ในโอกาสใด โดยมีเงื่อนไขอย่างใด ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสถาบัน" ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ส. โหตระกิตย์ รองนายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยี การเกษตร พ.ศ. 2518 ซึ่งใช้อยู่ในปัจจุบันกำหนดให้สถาบันมีอำนาจให้ปริญญาแก่ผู้ที่สำเร็จการศึกษา ในทุกสาขาวิชาได้เพียงชั้นปริญญาตรีเท่านั้น สมควรให้สถาบันมีอำนาจให้ปริญญาแก่ผู้ที่สำเร็จการ ศึกษาจากสถาบันนี้ ทุกสาขาวิชาถึงชั้นปริญญาเอก อีกประการหนึ่งสมควรกำหนดให้สถาบันมีอำนาจให้ ปริญญากิตติมศักดิ์แก่บุคคลใด ๆ ซึ่งสถาบันเห็นว่าทรงคุณวุฒิสมควรแก่ปริญญานั้นได้กับสมควรกำหนด ให้มีครุยประจำตำแหน่งกรรมกาสภาสถาบันและครุยประจำตำแหน่งคณาจารย์ของสถาบัน จึงจำเป็น ต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น (ร.จ.เล่ม 96 ตอนที่ 56 หน้า 1 วันที่ 21 เมษายน 2522) |