พระราชบัญญัติ
                       การประปานครหลวง (ฉบับที่ 3)
                               พ.ศ.2522
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                    ให้ไว้ ณ วันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2522
                        เป็นปีที่ 34 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้ประกาศว่า
   โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการประปานครหลวง
   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ  ทำหน้าที่รัฐสภาดังต่อไปนี้

   มาตรา1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติการประปานครหลวง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522"

   มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

   มาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นบทนิยามระหว่างบทนิยาม คำว่า "การประปานครหลวง"
กับคำว่า "พนักงาน" ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการประปานครหลวง พ.ศ. 2510
   ""ประปาเอกชน" หมายความว่า การผลิต จัดส่ง และจำหน่ายน้ำประปาโดยเอกชน ให้แก่
ผู้อยู่ในบ้านที่มีทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรตั้งแต่ห้าบ้านขึ้นไป โดยมีค่าตอบแทน
เป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น"

   มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติการประปานครหลวง พ.ศ. 2510
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 6 ให้จัดตั้งการประปาขึ้นเรียกว่า "การประปานครหลวง" มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
   (1) สำรวจ จัดหาแหล่งน้ำดิบ และจัดให้ได้มาซึ่งน้ำดิบเพื่อใช้ในการประปา
   (2) ผลิต จัดส่งและจำหน่ายน้ำประปาในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และ
จังหวัดสมุทรปราการ และควบคุมมาตรฐานเกี่ยวกับระบบประปาเอกชนในเขตท้องที่ดังกล่าว
   (3) ดำเนินธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับหรือเป็นประโยชน์แก่การประปา"

   มาตรา 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (4 ทวิ) ของมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการ
ประปานครหลวง พ.ศ. 2510 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการประปานครหลวง (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2516
   "(4 ทวิ) กำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับระบบประปาเอกชนในเขตท้องที่ตามมาตรา 6 (2)
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา"

   มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการประปานครหลวง พ.ศ.
2510 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 18 ให้การประปานครหลวงเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับกระทรวงการคลัง ธนาคาร
แห่งประเทศไทย หรือธนาคารอื่นตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนดด้วยความเห็นชอบของ
คณะรัฐมนตรี"

   มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติการประปานครหลวง พ.ศ. 2510
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 24 ภายใต้บังคับมาตรา 28 มาตรา 29 และมาตรา 43 ให้คณะกรรมการมีอำนาจ
หน้าที่วางนโยบายและควบคุมดูแลทั่วไป ซึ่งกิจการของการประปานครหลวง อำนาจหน้าที่เช่นว่านี้
ให้รวมถึง
   (1) วางข้อบังคับเกี่ยวกับการดำเนินกิจการตามมาตรา 13
   (2) วางข้อบังคับการประชุมและการดำเนินกิจการของคณะกรรมการ
   (3) วางข้อบังคับว่าด้วยการบรรจุ การแต่งตั้ง การถอดถอน พนักงาน ระเบียบวินัย การ
ลงโทษพนักงาน และการร้องทุกข์
   (4) วางข้อบังคับว่าด้วยระเบียบปฏิบัติงานของการประปานครหลวง ถ้าข้อบังคับมีข้อความ
จำกัดอำนาจผู้ว่าการในการทำนิติกรรมไว้ประการใด ให้รัฐมนตรีประกาศข้อความเช่นว่านั้นใน
ราชกิจจานุเบกษา
   (5) วางข้อบังคับว่าด้วยจำนวนอัตราตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของพนักงาน
   (6) วางข้อบังคับเกี่ยวกับลูกจ้าง
   (7) วางข้อบังคับว่าด้วยบำเหน็จและกองทุนบำเหน็จผู้ปฏิบัติงานในการประปานครหลวง และ
การสงเคราะห์อื่นเพื่อสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานและครอบครัว"

   มาตรา 8 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 40 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการประปานครหลวง
พ.ศ. 2510
   "มาตรา 40 ทวิ เพื่อประโยชน์ในการผลิต จัดส่งและจำหน่ายน้ำประปาให้เป็นไปตามมาตรฐาน
ผู้ใดประสงค์จะดำเนินการสร้างระบบประปาเอกชน หรือขยายระบบประปาเอกชนที่มีอยู่ในเขต
ท้องที่ตามมาตรา 6 (2) จะต้องได้รับความเห็นชอบของการประปานครหลวงและจะต้องปฏิบัติให้
เป็นไปตามมาตรฐานที่การประปานครหลวงประกาศกำหนดตามมาตรา 13 (4 ทวิ)
   ในกรณีที่การประปานครหลวงไม่ให้ความเห็นชอบตามวรรคหนึ่ง ผู้ซึ่งประสงค์จะดำเนินการ
สร้างระบบประปาเอกชน หรือขยายระบบประปาเอกชนที่มีอยู่มีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรี
ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือของการประปานครหลวง แจ้งการไม่ให้ความเห็นชอบ
   ให้รัฐมนตรีวินิจฉัยอุทธรณ์ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด"

   มาตรา 9 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 41 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการประปานครหลวง
พ.ศ. 2510
   "มาตรา 41 ทวิ ผู้ใดดำเนินการตามมาตรา 41 ทวิ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากการ
ประปานครหลวง หรือไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานการประปานครหลวงประกาศกำหนดตาม
มาตรา 13 (4 ทวิ) ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท"

   มาตรา 10 ให้ยกเลิกความในมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติการประปานครหลวง พ.ศ. 2510
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการประปานครหลวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 และให้ใช้
ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 43 การประปานครหลวงจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน จึงจะ
ดำเนินกิจการดังต่อไปนี้ได้
   (1) เพิ่มหรือลดทุน
   (2) กู้ยืมเงินเป็นจำนวนเกินสิบล้านบาท
   (3) จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์อันมีราคาเกินห้าแสนบาท
   (4) จำหน่ายทรัพย์สินอันมีราคาเกินห้าแสนบาทจากบัญชีเป็นศูนย์
   (5) กำหนดอัตราราคาขายน้ำประปาของการประปานครหลวง
   (6) ออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน"

   มาตรา 11 ให้ยกเลิกความในมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติการประปานครหลวง พ.ศ. 2510
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 45 รายได้ที่การประปานครหลวงได้พ้นจากการดำเนินงานให้ตกเป็นของการ
ประปานครหลวง สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการดำเนินกิจการ ค่าภาระต่าง ๆ ที่เหมาะสม
เช่นค่าบำรุงรักษา ค่าเสื่อมราคา กองทุนบำเหน็จผู้ปฏิบัติงานและการสงเคราะห์อื่นเพื่อสวัสดิการ
ของผู้ปฏิบัติงานและครอบครัวตามมาตรา 24 ประโยชน์ตอบแทนตามมาตรา 27 โบนัสตาม
มาตรา 35 เงินสำรองตามมาตรา 16 และเงินลงทุนตามงบลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบตามมาตรา 44
   รายได้ที่ได้รับในปีหนึ่ง ๆ เมื่อได้หักค่าใช้จ่ายและค่าภาระดังกล่าวในวรรคหนึ่งแล้วเหลือเท่า
ใดให้นำส่งเป็นรายได้ของรัฐ
   ถ้ารายได้มีจำนวนไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายและค่าภาระดังกล่าวในวรรคหนึ่ง นอกจากโบนัส
ตามมาตรา 35 และเงินสำรองตามมาตรา 16 และการประปานครหลวงไม่สามารถหาเงิน
จากทางอื่น รัฐพึงจ่ายเงินให้แก่การประปานครหลวงเท่าจำนวนที่ขาด"

   มาตรา 12 ให้ยกเลิกความในมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติการประปานครหลวง พ.ศ. 2510
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "มาตรา 48 ให้การประปานครหลวงจัดให้มีกองทุนบำเหน็จผู้ปฏิบัติงานและการสงเคราะห์อื่นเพื่อ
สวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานในการประปานครหลวงและครอบครัวตามข้อบังคับที่คณะกรรมการวางไว้ด้วย
ความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี"

   มาตรา 13 ผู้ที่ได้ดำเนินการตามมาตรา 40 ทวิ อยู่แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้
มาแจ้งต่อการประปานครหลวงภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และเมื่อ
แจ้งแล้วให้ถือว่าผู้นั้นได้รับความเห็นชอบจากการประปานครหลวงสำหรับการดำเนินการดังกล่าว
และในกรณีที่การดำเนินการของบุคคลดังกล่าวยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่การประปานครหลวงประ
กาศกำหนดตามมาตรา 13 (4 ทวิ) ให้การประปานครหลวงมีอำนาจกำหนดเงื่อนไขเพื่อให้บุคคล
ดังกล่าวปฏิบัติเพื่อเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขให้การดำเนินการของบุคคลอื่นเป็นไปตามมาตรฐานภายใน
ระยะเวลาที่กำหนดได้ตามที่การประปานครหลวงเห็นสมควร

   มาตรา 14 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ส. โหตระกิตย์
รองนายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้คือ เนื่องจากพระราชบัญญัติการ
ประปานครหลวง พ.ศ. 2510 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการประปานครหลวง (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2516 มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมแก่การปฏิบัติงานของการประปานครหลวง และ
ในปัจจุบันเอกชนในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ได้ดำเนินการ
สร้างระบบการผลิต จัดส่ง และจำหน่ายน้ำประปาหรือขยายระบบดังกล่าวที่มีอยู่โดยไม่เป็นไปตาม
มาตรฐานที่สมควร ซึ่งอาจเป็นผลเสียหายแก่ประชาชนผู้ใช้น้ำประปานั้นได้ สมควรแก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติดังกล่าวให้การประปานครหลวงสามารถปฏิบัติงานได้โดยคล่องตัวในฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ
และให้การประปานครหลวงสามารถควบคุมมาตรฐานเกี่ยวกับการผลิต จัดส่ง และจำหน่ายน้ำประปา
ของเอกชนในเขตท้องที่ดังกล่าวได้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น
(ร.จ.เล่ม 96 ตอนที่ 55 หน้า 25 วันที่ 20 เมษายน 2522)