พระราชบัญญัติ
                 แก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216
                 ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515 (ฉบับที่ 22)
                              พ.ศ. 2522
   ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
                   ให้ไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522
                        เป็นปีที่ 34 ในรัชกาลปัจจุบัน
   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ
ให้ประกาศว่า
   โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29 กันยายน
พ.ศ. 2515
   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้

   มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515 (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2522"

   มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

   มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 2 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29 กันยายน
พ.ศ. 2515 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216
ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515 (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2520 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "ข้อ 2 ให้มีกระทรวง ทบวง และส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกระทรวงดังต่อไปนี้
   (1) สำนักนายกรัฐมนตรี
   (2) กระทรวงกลาโหม
   (3) กระทรวงการคลัง
   (4) กระทรวงการต่างประเทศ
   (5) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
   (6) กระทรวงคมนาคม
   (7) กระทรวงพาณิชย์
   (8) กระทรวงมหาดไทย
   (9) กระทรวงยุติธรรม
  (10) กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน
  (11) กระทรวงศึกษาธิการ
  (12) กระทรวงสาธารณสุข
  (13) กระทรวงอุตสาหกรรม
  (14) ทบวงมหาวิทยาลัย"

   มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 4 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29 กันยายน
พ.ศ. 2515 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216
ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515 (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2521 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "ข้อ 4 สำนักนายกรัฐมนตรีมีส่วนราชการดังต่อไปนี้
   (1) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
   (2) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
   (3) สำนักงบประมาณ
   (4) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
   (5) สำนักงานสภานโยบายแห่งชาติ
   (6) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
   (7) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
   (8) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
   (9) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  (10) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
  (11) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ
  (12) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
  (13) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
  (14) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ
  (15) สำนักงานสถิติแห่งชาติ
  (16) กรมประชาสัมพันธ์
  (17) กรมประมวลข่าวกลาง
  (18) กรมวิเทศสหการ"

   มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 13 และข้อ 14 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216
ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศ
ของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515 (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2518
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "ข้อ 13 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเกษตร และเศรษฐกิจการเกษตร
การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การชลประทาน การประมง การปศุสัตว์ การป่าไม้ การพัฒนาที่ดิน
และการสหกรณ์
   ข้อ 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีส่วนราชการดังต่อไปนี้
   (1) สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรี
   (2) สำนักงานปลัดกระทรวง
   (3) กรมชลประทาน
   (4) กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
   (5) กรมประมง
   (6) กรมปศุสัตว์
   (7) กรมป่าไม้
   (8) กรมพัฒนาที่ดิน
   (9) กรมวิชาการเกษตร
  (10) กรมส่งเสริมการเกษตร
  (11) กรมส่งเสริมสหกรณ์
  (12) สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
  (13) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร"

   มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 18 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29
กันยายน พ.ศ. 2515 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "ข้อ 18 กระทรวงพาณิชย์มีส่วนราชการดังต่อไปนี้
   (1) สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรี
   (2) สำนักงานปลัดกระทรวง
   (3) กรมการค้าต่างประเทศ
   (4) กรมการค้าภายใน
   (5) กรมทะเบียนการค้า
   (6) กรมพาณิชย์สัมพันธ์
   (7) กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์
   (8) สำนักงานประกันภัย"

   มาตรา 7 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นหมวด 9 ทวิ ข้อ 22 ทวิ และข้อ 22 ตรี แห่งประกาศ
ของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515
                              "หมวด 9 ทวิ
                กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน
   ข้อ 22 ทวิ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงานมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการ
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การพลังงาน การควบคุมรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม และการวิจัย
   ข้อ 22 ตรี กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน มีส่วนราชการดังต่อไปนี้
   (1) สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรี
   (2) สำนักงานปลัดกระทรวง
   (3) กรมวิทยาศาสตร์บริการ
   (4) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
   (5) สำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
   (6) สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ
   (7) สำนักงานพลังงานแห่งชาติ"

   มาตรา 8 ให้ยกเลิกความในข้อ 27 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 ลงวันที่
29 กันยายน พ.ศ. 2515 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515 (ฉบับที่ 15) พ.ศ. 2519 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "ข้อ 24 กระทรวงศึกษาธิการมีส่วนราชการดังต่อไปนี้
   (1) สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรี
   (2) สำนักงานปลัดกระทรวง
   (3) กรมการฝึกหัดครู
   (4) กรมการศาสนา
   (5) กรมการศึกษานอกโรงเรียน
   (6) กรมพลศึกษา
   (7) กรมวิชาการ
   (8) กรมศิลปากร
   (9) กรมสามัญศึกษา
  (10) กรมอาชีวศึกษา
  (11) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน
  (12) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
  (13) วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา"

   มาตรา 9 ให้ยกเลิกความในข้อ 27 และข้อ 28 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216
ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2515 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
   "ข้อ 27 กระทรวงอุตสาหกรรมมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการอุตสาหกรรมและทรัพยากรธรณี
   ข้อ 28 กระทรวงอุตสาหกรรมมีส่วนราชการดังต่อไปนี้
   (1) สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรี
   (2) สำนักงานปลัดกระทรวง
   (3) กรมทรัพยากรธรณี
   (4) กรมโรงงานอุตสาหกรรม
   (5) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม"
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ส. โหตระกิตย์
รองนายกรัฐมนตรี
   หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควร
   (1) จัดตั้งกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงานขึ้น ให้มีอำนาจหน้าที่
ในการกำหนดนโยบาย แผน กำกับ การปฏิบัติการ และดำเนินงานเกี่ยวกับการวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีและการพลังงาน เพื่อให้การปฏิบัติงานเกี่ยวกับการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ
การพลังงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเพื่อประโยชน์ในการประสานงานให้สอดคล้องกัน อันจะทำ
ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทางเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงแห่งชาติ
   (2) จัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ขึ้นในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อทำหน้าที่ใน
ด้านการรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์นโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ การวางแผน
การผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตลอดจนทำหน้าที่ประสานงานและติดตามผล
การปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
   (3) จัดตั้งสำนักงานประกันภัย ขึ้นในกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้สามารถควบคุมส่งเสริมธุรกิจ
ประกันชีวิตและประกันวินาศภัย รวมทั้งให้บริการแก่ประชาชนผู้เอาประกันในด้านต่าง ๆ ได้
กว้างขวางยิ่งขึ้น
   (4) จัดตั้งกรมการศึกษานอกโรงเรียนและสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ขึ้นใน
กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อทำหน้าที่เกี่ยวกับการวางแผน วิจัย พัฒนา อุดหนุน ส่งเสริม ประสานงาน
ให้บริการและดำเนินงานในด้านการศึกษานอกโรงเรียน และทำหน้าที่เกี่ยวกับการวางแผน วิจัย
กำหนด รักษา และเผยแพร่วัฒนธรรมแห่งชาติตามลำดับ
   จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น
(ร.จ. เล่ม 96 ตอนที่ 40 หน้า 1 วันที่ 23 มีนาคม 2522)