พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งของ คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2515 พ.ศ. 2522"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 6 แห่งคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2515 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 4 รัฐมนตรีมีอำนาจอนุญาตให้บุคคลใดผลิตอาวุธสำหรับราชการทหารและตำรวจได้ ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับนี้ ข้อ 5 นอกจากที่บัญญัติไว้แล้วในคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับนี้ การกระทำ ใดซึ่งได้รับอนุญาตตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับนี้ ให้การกระทำนั้นได้รับยกเว้น ไม่ต้องขออนุญาตและปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ข้อ 6 ผู้ใดประสงค์จะผลิตอาวุธตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับนี้ ให้ยื่นคำขอ รับใบอนุญาตต่อรัฐมนตรีตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ ผู้ยื่น คำขอต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานด้วย ผู้ขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ต้องเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งตั้งขึ้นตาม กฎหมายไทย"
มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 8 แห่งคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2515 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 8 ประเภทของใบอนุญาตมีดังนี้ (1) ใบอนุญาตตั้งโรงงานทำอาวุธ (2) ใบอนุญาตตั้งโรงงานประกอบอาวุธ (3) ใบอนุญาตตั้งโรงงานซ่อมแซมอาวุธ (4) ใบอนุญาตตั้งโรงงานเปลี่ยนลักษณะอาวุธ ผู้ได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานทำอาวุธให้ถือว่าได้รับอนุญาตตั้งโรงงานประกอบ ซ่อมแซม และ เปลี่ยนลักษณะอาวุธด้วย ผู้ได้รับใบอนุญาตตามข้อนี้ให้ถือว่าได้รับอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธที่ได้รับใบอนุญาต ให้ทำ ประกอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนลักษณะ แล้วแต่กรณี"
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 15 แห่งคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ผู้ได้รับใบอนุญาตซึ่งประสงค์จะสั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งวัตถุใด ๆ เพื่อใช้ใน การผลิตอาวุธ หรือสั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งอาวุธใด ๆ เพื่อใช้ในการผลิตอาวุธหรือ เป็นตัวอย่างหรือเพื่อวิจัยเกี่ยวกับการผลิต ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง"
มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 19 แห่งคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2515 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 19 ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องเก็บวัตถุที่ใช้ในการผลิตอาวุธและอาวุธที่ผลิตขึ้นไว้ภายในโรงงาน หรือสถานที่เก็บตามที่รัฐมนตรีกำหนดในใบอนุญาต สถานที่เก็บวัตถุที่ใช้ในการผลิตอาวุธและอาวุธที่ผลิตขึ้นต้องมีลักษณะตามที่รัฐมนตรีกำหนดใน ใบอนุญาต ในกรณีที่วัตถุที่ใช้ในการผลิตอาวุธหรืออาวุธที่ผลิตขึ้น มีกฎหมายใดกำหนดวิธีการเก็บไว้โดยเฉพาะ นอกจากกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียม อาวุธปืน ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นด้วย"
มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในข้อ 22 แห่งคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2515 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 22 ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาต ขายหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งอาวุธที่ผลิตขึ้น เว้น แต่ขายหรือจำหน่ายให้แก่กระทรวงกลาโหมหรือกรมตำรวจ หรือได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีให้ขาย หรือจำหน่ายแก่บุคคลอื่น ไม่ว่าโดยการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือขายหรือจำหน่ายใน ราชอาณาจักร การขออนุญาตขายหรือจำหน่ายอาวุธให้แก่บุคคลอื่น นอกจากกระทรวงกลาโหมหรือกรมตำรวจ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ในการที่รัฐมนตรีจะอนุญาตให้ขายหรือจำหน่ายโดยการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรจะต้องได้ รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน"
มาตรา 8 ให้ยกเลิกความในข้อ 27 แห่งคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2515 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 37 ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตมีความจำเป็นต้องหยุดดำเนินการผลิตหรือไม่อาจดำเนิน การผลิต หรือดำเนินการในลักษณะที่ลดปริมาณการผลิตซึ่งอาวุธที่ได้รับอนุญาตให้ผลิต ถ้าการกระทำ ดังกล่าวเป็นเหตุให้ราชการของกระทรวงกลาโหมต้องได้รับความเสียหายหรือเกิดขึ้นในระหว่าง ประเทศอยู่ในภาวะการรบหรือการสงคราม ให้รัฐมนตรีด้วยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมี อำนาจสั่งให้ส่วนราชการของกระทรวงกลาโหมเข้าดำเนินการผลิตอาวุธในโรงงานของผู้ได้รับ ใบอนุญาตได้ ทั้งนี้ จนกว่าพฤติการณ์อันเป็นเหตุให้ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องหยุดดำเนินการผลิตหรือไม่ อาจดำเนินการผลิตหรือลดปริมาณการผลิตนั้นจะสิ้นสุดลง"
มาตรา 9 ให้ยกเลิกความในข้อ 29 และข้อ 30 แห่งคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2515 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 29 เมื่อมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ รัฐมนตรีมีอำนาจอนุญาตให้ผู้ซึ่งได้ รับใบอนุญาตให้ตั้งและประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานอยู่แล้ว ผลิตเฉพาะส่วน ประกอบของอาวุธสำหรับราชการทหารและตำรวจเป็นการเฉพาะคราวได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนด ให้นำข้อ 6 วรรคสอง ข้อ 7 ข้อ 12 ข้อ 13 ข้อ 14 ข้อ 15 ข้อ 16 ข้อ 17 ข้อ 18 ข้อ 19 ข้อ 20 ข้อ 21 ข้อ 22 ข้อ 23 ข้อ 24 และข้อ 25 มาใช้บังคับแก่ผู้ได้รับอนุญาตตาม วรรคหนึ่งโดยอนุโลม ข้อ 30 เพื่อประโยชน์แก่การผลิตอาวุธสำหรับราชการทหารและตำรวจ ถ้ากรณีมีความจำเป็น เพื่อให้ผู้ได้รับใบอนุญาตสามารถดำเนินการผลิตอาวุธไปได้โดยสม่ำเสมอ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจ อนุญาตให้ผู้ได้รับใบอนุญาตดังกล่าวผลิตอาวุธไว้เพื่อขายหรือจำหน่ายแก่บุคคลอื่นนอกจาก กระทรวงกลาโหมและกรมตำรวจเป็นการเฉพาะคราวได้ เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตนั้นร้องขอ การขออนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดใน กฎกระทรวง การขายหรือจำหน่ายอาวุธที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามข้อ 22"
มาตรา 10 ให้ยกเลิกความในข้อ 40 แห่งคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 40ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาการตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครอง แผ่นดินฉบับนี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ กับออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียม ไม่เกินอัตราท้ายคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับนี้ และกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติ ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับนี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้"
มาตรา 11 ให้เพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมต่อไปนี้ไว้ท้ายคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 "อัตราค่าธรรมเนียม (1) ใบอนุญาตตั้งโรงงานทำอาวุธ ฉบับละ 250,000 บาท (2) ใบอนุญาตตั้งโรงงานประกอบอาวุธ ฉบับละ 100,000 บาท (3) ใบอนุญาตตั้งโรงงานซ่อมแซมอาวุธ ฉบับละ 100,000 บาท (4) ใบอนุญาตตั้งโรงงานเปลี่ยนลักษณะ อาวุธ ฉบับละ 100,000 บาท (5) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 250 บาท (6) การต่ออายุใบอนุญาตตั้งโรงงานทำ อาวุธ ครั้งละ 25,000 บาท (7) การต่ออายุใบอนุญาตตั้งโรงงาน ประกอบอาวุธ ครั้งละ 10,000 บาท (8) การต่ออายุใบอนุญาตตั้งโรงงาน ซ่อมแซมอาวุธ ครั้งละ 10,000 บาท (9) การต่ออายุใบอนุญาตตั้งโรงงาน เปลี่ยนลักษณะอาวุธ ครั้งละ 10,000 บาท" ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ส. โหตระกิตย์ รองนายกรัฐมนตรี |