พระราชบัญญัติ เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น ของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ.2522 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2522 เป็นปีที่ 34 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น ของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภาดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทน อย่างอื่นของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ พ.ศ. 2522"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิก วุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือกรรมาธิการ พ.ศ. 2518
มาตรา 4 ประธานวุฒิสภาหรือประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ หนึ่งหมื่นห้าพันบาท กับเงินค่ารับรองเดือนละสองหมื่นบาท รองประธานวุฒิสภาหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ หนึ่งหมื่นสองพันบาท กับเงินค่ารับรองเดือนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท
มาตรา 5 ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานวุฒิสภา และรองประธาน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้รับเงินประจำตำแหน่ง กับเงินค่ารับรองตามมาตรา 4 ไม่มีสิทธิได้รับเงิน ตามมาตรา 7 หรือมาตรา 8
มาตรา 6 สมาชิกวุฒิสภาหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตามมาตรา 3 (1) ถึง (8) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2518 ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2522 ด้วยใน ขณะเดียวกันถ้าได้รับเงินเดือนและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งแล้วไม่มีสิทธิได้รับเงินตามมาตรา 7 หรือมาตรา 8 อีก
มาตรา 7 สมาชิกวุฒิสภาผู้แทนราษฎรให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละแปดพันบาท
มาตรา 8 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละหนึ่งหมื่นบาทกับเงิน ค่ารับรองและเงินช่วยเหลือค่าที่พักอาศัยเป็นเงินเหมาอีกเดือนละแปดพันบาท
มาตรา 9 การรับเงินประจำตำแหน่งของสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งไม่มา ประชุมในระหว่างสมัยประชุม ให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมของวุฒิสภาหรือของสภาผู้แทนราษฎร แล้วแต่กรณี
มาตรา 10 เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาหรือพระบรมราชโองการประกาศ เรียกประชุมรัฐสภา ให้ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานวุฒิสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกจังหวัด อันเป็นที่ตั้งรัฐสภา ได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางเฉพาะครั้งแรกจากจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่มายัง จังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา หรือเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาหรือเมื่อสมาชิกภาพของสมาชิก วุฒิสภาหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ให้ได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นที่ตั้ง รัฐสภากลับไปยังจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่ ทั้งนี้ ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับการประชุมของวุฒิสภาหรือ ของสภาผู้แทนราษฎร แล้วแต่กรณี ในกรณีที่ใช้ยานพาหนะส่วนตัวเดินทางตามวรรคหนึ่ง ให้ได้รับค่าพาหนะตามข้อบังคับการประชุม ของวุฒิสภาหรือของสภาผู้แทนราษฎรแล้วแต่กรณี
มาตรา 11 เมื่อมีการประชุมคณะกรรมาธิการ ให้กรรมาธิการวุฒิสภา กรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการร่วมกันของสภาทั้งสองและกรรมาธิการวิสามัญวินิจฉัยร่าง พระราชบัญญัติ ซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภาได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางเฉพาะครั้งแรก จากจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่มายังจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา และเมื่อการประชุมคณะกรรมาธิการ ได้สิ้นสุดลง ให้ได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภากลับไปยังจังหวัดอัน เป็นถิ่นที่อยู่ ทั้งนี้ ตาทที่กำหนดไว้ในข้อบังคับการประชุมของวุฒิสภาหรือของสภาผู้แทนราษฎร แล้วแต่กรณี ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่กรรมาธิการซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในระหว่างสมัยประชุม ในกรณีที่กรรมาธิการวุฒิสภา กรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรกรรมาธิการร่วมกันของสภาทั้งสอง และกรรมาธิการวิสามัญวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติมีความจำเป็นต้องเดินทางไปนอกจังหวัดอันเป็น ที่ตั้งรัฐสภาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมาธิการให้ได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามข้อบังคับ การประชุมของวุฒิสภา หรือของสภาผู้แทนราษฎร แล้วแต่กรณี ในกรณีที่ใช้ยานพาหนะส่วนตัวเดินทางตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสาม ให้ได้รับค่าพาหนะตามข้อ บังคับการประชุมของวุฒิสภาหรือของสภาผู้แทนราษฎร แล้วแต่กรณี
มาตรา 12 กรรมาธิการวุฒิสภา กรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการร่วมกันของสภาทั้งสอง และกรรมาธิการวิสามัญวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติ ให้ได้รับเบี้ยประชุมเรื่องหนึ่งครั้งละหนึ่งร้อยบาท การประชุมเรื่องใดในวันเดียวกันมากกว่าหนึ่งครั้ง ให้ได้รับเบี้ยประชุมเพียงครั้งเดียว
มาตรา 13 ให้สำนักงานเลขาธิการรัฐสภาจัดใบเบิกทางโดยสารรถไฟ รถยนต์ประจำทาง และเครื่องบิน ให้แก่ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานวุฒิสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อใช้ใน การเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา ใบเบิกทางโดยสารรถไฟและรถยนต์ประจำทาง ให้มีผู้ติดตามได้หนึ่งคนในชั้นเดียวกัน
มาตรา 14 ให้นำพระราชบัญญัติกฤษฎีกาว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในส่วนที่ เกี่ยวกับการเดินทางไปราชการต่างประเทศของสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยอนุโลม โดยให้ประธานวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับประธานศาลฎีกา หรือรัฐมนตรี ส่วนรองประธานวุฒิสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรให้ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 10
มาตรา 15 ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานวุฒิสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งกับเงินค่ารับรอง หรือเงินประจำตำแหน่ง แล้วแต่กรณี นับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง ส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่ง เงินค่ารับรองและเงินช่วยเหลือค่าที่พักอาศัย นับแต่วันเลือกตั้ง
มาตรา 16 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ส. โหตระกิตย์ รองนายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเงิน ประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ กรรมาธิการ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น (ร.จ.เล่ม 96 ตอนที่ พิเศษ หน้า 15 วันที่ 22 เมษายน 2522) |