พระราชบัญญัติ เรือไทย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2521 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2521 เป็นปีที่ 33 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยเรือไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติเรือไทย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2521"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช 2481 และให้ ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 7 ผู้ที่จะถือกรรมสิทธิ์เรือจดทะเบียนเป็นเรือไทยได้ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาต้องมีสัญชาติไทย อยู่ในราชอาณาจักรไทย ถ้านิติบุคคลตามวรรคหนึ่งเป็นห้างหุ้นส่วน บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ด้วย 1. ในกรณีที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดต้องมีสัญชาติไทย 2. ในกรณีที่เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดซึ่งไม่จำกัดความรับผิด ต้องมีสัญชาติไทย และทุนของห้างหุ้นส่วนนั้นไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบต้องเป็นของบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย 3. ในกรณีที่เป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด กรรมการส่วนมากต้องมีสัญชาติไทย และ ไม่มีข้อบังคับอนุญาตให้ออกใบหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือ และ (ก) ทุนของบริษัทนั้นไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบต้องเป็นของบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย หรือ (ข) ทุนของบริษัทนั้นทั้งหมดเป็นของบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทยกับของนิติบุคคลซึ่งสามารถ ถือกรรมสิทธิ์เรือจดทะเบียนเป็นเรือไทยได้รวมกัน"
มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช 2481 และให้ ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 24 ถ้าเรือได้เปลี่ยนกรรมสิทธิ์ หรือต่อขึ้นใหม่นอกราชอาณาจักรไทย และเป็น เรือของบุคคลผู้มีลักษณะที่จะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เรือจดทะเบียนเป็นเรือไทยได้ตามมาตรา 7 เจ้าพนักงานกงสุลไทยหรือพนักงานตรวจเรือ กรมเจ้าท่า อาจออกใบทะเบียนชั่วคราวให้แก่ผู้ควบคุมเรือ และให้เจ้าพนักงานกงสุลไทยหรือพนักงานตรวจเรือกรมเจ้าท่า ผู้ออกใบทะเบียนชั่วคราวส่งสำเนา ใบทะเบียนชั่วคราวนั้นไปยังนายทะเบียนเรือประจำเมืองท่าซึ่งมีความจำนงจะจดทะเบียนโดยด่วน ข้อความในใบทะเบียนชั่วคราวต้องมีรายการดังต่อไปนี้ 1. ชื่อเรือ และชื่อเก่า ถ้ามี 2. ชื่อผู้ควบคุมเรือ 3. ชื่อเจ้าของเรือ และชื่อเจ้าของเก่า ถ้ามี 4. เหตุที่ได้กรรมสิทธิ์เรือนั้น 5. วัน เดือน ปี และตำบลที่ได้กรรมสิทธิ์ 6. รายการเกี่ยวด้วยขนาดเรือ การต่อเรือ และรายการอื่น ๆ เท่าที่แสดงได้ 7. ชื่อเมืองท่าซึ่งมีความจำนงจะจดทะเบียนเป็นเรือไทย"
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช 2481 และให้ ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 25 ใบทะเบียนชั่วคราวซึ่งเจ้าพนักงานกงสุลไทย หรือพนักงานตรวจเรือกรมเจ้าท่า ออกให้ตามมาตรา 24 ให้ใช้ได้เช่นเดียวกับใบทะเบียน และให้ใช้จนกว่าเรือนั้นมาถึงเมืองท่าซึ่งมี ความจำนงจะจดทะเบียน แต่ห้ามมิให้ใช้เกินกำหนดหกเดือนนับแต่วันออกใบทะเบียนชั่วคราวนั้น ให้ผู้ควบคุมเรือส่งใบทะเบียนชั่วคราวแก่นายทะเบียนเรือภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่เรือนั้นมาถึง เมืองท่าซึ่งมีความจำนงจะจดทะเบียน"
มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช 2481 และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 49 เรือไทยที่ได้จดทะเบียนแล้ว ในระหว่างเวลาที่คงใช้เรือต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้ ประจำเรือ 1. ใบทะเบียนหรือใบทะเบียนชั่วคราว แล้วแต่กรณี 2. ใบสำคัญรับรองการตรวจเรือต่าง ๆ 3. สัญญาคนประจำเรือ 4. สัญญาเช่าเรือ ถ้ามี 5. ใบตราส่ง ถ้ามี 6. บัญชีสินค้าสำหรับเรือ ถ้ามี 7. สมุดปูมเรือ 8. ใบปล่อยเรือและใบอนุญาตออกจากท่า ถ้ามี เอกสารตามวรรคหนึ่ง นอกจากใบทะเบียนหรือใบทะเบียนชั่วคราวแล้วแต่กรณี รัฐมนตรีมีอำนาจ ยกเว้นมิให้ต้องมีได้โดยออกเป็นกฎกระทรวง เอกสารตามวรรคหนึ่ง อาจใช้พิสูจน์สัญชาติเรือได้ ส่วนภาษาและแบบพิมพ์ของเอกสารนั้น หากมิได้มีข้อความบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ก็ให้ทำตามที่กำหนดในกฎกระทรวง"
มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช 2481 และให้ ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 62 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจ แต่งตั้งเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ และกำหนด การอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้"
มาตรา8 ให้ยกเลิกความในเลขลำดับ 4 ของบัญชีค่าธรรมเนียมอัตราชั้นสูงท้ายพระราชบัญญัติ เรือไทย พุทธศักราช 2481 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเรือไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2817 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน เลขลำดับ ? ประเภท ? จำนวนเงิน ? ? ? บาท สตางค์ ? ????????????????????????????????????????????????????????????????????? "4 ? ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนชื่อเรือ การขอโอนไปขึ้น ? ? ? ? ทะเบียนเรือ ณ เมืองท่าอื่น การออกใบทะเบียน ? ? ? ? แทนใบเก่า การออกใบทะเบียนชั่วคราว การออก ? ? ? ? ใบผ่านเมืองท่าชั่วคราว หรือการออกใบทะเบียน ? ? ? ? ให้ใหม่ในกรณีเปลี่ยนแปลงตัวเรือหรือส่วนอื่นของเรือ ? ? ? ? ครั้งละ ? 100 " ? ? ????????????????????????????????????????????????????????????????????? ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติ เรือไทย พุทธศักราช 2481 ในส่วนที่ว่าด้วยคุณสมบัติของผู้ที่จะถือกรรมสิทธิ์เรือจดทะเบียนเป็นเรือไทย การออกใบทะเบียนชั่วคราวในต่างประเทศและเอกสารประจำเรือไม่เหมาะสมแก่สภาพการณ์ปัจจุบัน ทั้ง ยังมิได้มีการเก็บค่าธรรมเนียมในกรณีเปลี่ยนแปลงตัวเรือหรือส่วนอื่นของเรือในภายหลังสมควรแก้ไข เพิ่มเติมบทบัญญัติดังกล่าวและบัญชีค่าธรรมเนียมอัตราขั้นสูงให้เหมาะสมยิ่งขึ้น นอกจากนั้นโดยที่มาตรา 62 บัญญัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติ แต่ได้มีพระราชบัญญัติ โอนอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับราชการของกระทรวงหรือกรมซึ่งได้มีการปรับปรุงใหม่ พุทธศักราช 2484 โอนอำนาจดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อความสะดวกที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคมจะใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติโดยไม่ต้องอ้างพระราชบัญญัติโอนอำนาจและหน้าที่ เกี่ยวกับราชการของกระทรวงหรือกรมซึ่งได้มีการปรับปรุงใหม่ พุทธศักราช 2484 อีก สมควรแก้ไข บทบัญญัติมาตรา 62 เสียด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น (ร.จ. เล่ม 95 ตอนที่ 156 หน้า 67 วันที่ 31 ธันวาคม 2521) |