พระราชบัญญัติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2521 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ไห้ไว้ ณ วันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2521 เป็นปีที่ 33 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2521"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็น ต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการไฟฟ้าผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ.2511 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 28 เพื่อประโยชน์ในการสร้างและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า ให้พนักงานหรือลูกจ้าง มีอำนาจที่จะใช้สอยหรือเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในความครอบครองของบุคคลใด ๆ ซึ่งมิ ใช่เคหสถานเป็นการชั่วคราวภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้ (1) การใช้สอยหรือเข้าครอบครองนั้นเป็นการจำเป็นสำหรับการสำรวจระบบไฟฟ้า หรือการป้องกันอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดแก่ระบบไฟฟ้า (2) ได้แจ้งหรือประกาศให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ทราบล่วงหน้าดัง ต่อไปนี้ (ก) ในการสำรวจระบบไฟฟ้าหรือในการป้องกันอันตรายหรือความเสียหายที่จะ เกิดแก่ระบบไฟฟ้า ให้แจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ทราบล่วงหน้า เป็นการเฉพาะรายภายในเวลาอันสมควร แต่ไม่น้อยกว่าสามวัน หรือ (ข) ในกรณีสำรวจทั่วไปเพื่อเลือกแนวหรือที่ตั้งระบบไฟฟ้าที่เหมาะสม ให้ประกาศ กำหนดเขตสำรวจไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอและที่ทำการตำบล หรือที่ว่าการเขต ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ นั้นตั้งอยู่ และในราชกิจจานุเบกษา ก่อนวันสำรวจไม่น้อยกว่าสามสิบวันหรือ (ค) ในกรณีสำรวจเฉพาะแห่งภายหลังที่เลือกแนวหรือที่ตั้งระบบไฟฟ้าที่เหมาะสม แล้ว หากเจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นมิได้อาศัยอยู่ในเขตตำบลที่กำลังสำรวจอยู่ และเป็นกรณีที่จะต้องสำรวจโดยเร่งด่วน ให้ประกาศกำหนดเขตสำรวจไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอ ที่ทำการตำบลและที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน หรือที่ว่าการเขต ซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ ก่อนวันสำรวจ ไม่น้อยกว่าสามสิบวัน ในการปฏิบัติตามมาตรานี้ ให้พนักงานหรือลูกจ้างแสดงบัตรประจำตัวเมื่อบุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง ร้องขอ ถ้าความเสียหายเกิดแก่เจ้าของ ผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์หรือผู้ทรงสิทธิอื่น เนื่องจาก การกระทำของพนักงานหรือลูกจ้าง บุคคลนั้นย่อมเรียกค่าทดแทนจาก กฟผ. ได้ และถ้าไม่ สามารถตกลงกันในจำนวนค่าทดแทน ให้มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย และให้นำ บทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์มาใช้บังคับโดยอนุโลม" ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:-เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยการ ไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้กำหนดไว้ว่า หากมีความจำเป็นสำหรับการสำรวจระบบไฟฟ้า หรือการป้องกันอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกิดแก่ระบบไฟฟ้า ให้พนักงานหรือลูกจ้างของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีอำนาจเข้าใช้สอยหรือเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมิใช่ เคหสถานของบุคคลอื่นเป็นการชั่วคราวได้ แต่ต้องแจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครอง อสังหาริมทรัพย์นั้นทราบล่วงหน้าภายในเวลาอันสมควร แต่ในทางปฏิบัติปรากฏว่าบางกรณีเช่น ในกรณีการสำรวจทั่วไปซึ่งเป็นการสำรวจขั้นต้นเพื่อเลือกแนวหรือที่ตั้งระบบไฟฟ้า ก่อนจะดำเนิน การสำรวจย่อมเป็นการยากที่จะทราบว่าอสังหาริมทรัพย์ที่จะเข้าใช้สอยหรือครอบครองชั่วคราว นั้น เป็นของบุคคลใดและเจ้าของหรือผู้ครอบครองอยู่ที่ใด จึงไม่อาจแจ้งให้เจ้าของหรือ ผู้ครอบครองทราบล่วงหน้าเป็นรายบุคคลตามที่กฎหมายบังคับไว้ ซึ่งถ้าจะต้องปฏิบัติเช่นนั้นแล้วก็ ย่อมจะทำให้การดำเนินการสำรวจชะงักหรือล่าช้าเกินควร จึงควรเปลี่ยนวิธีการแจ้งให้เจ้าของ หรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ทราบเสียใหม่ จากการแจ้งเฉพาะรายมาเป็นการแจ้งรวมโดย ประกาศเขตสำรวจไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ และประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น (ร.จ. เล่ม 95 ตอนที่ 40 หน้า 1 5 เมษายน 2521) |