พระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 23) พ.ศ.2521 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2521 เป็นปีที่ 33 ในรัชกาลปัจจุบัน |
มาตรา 33 ในกรณีที่มหาวิทยาลัยมีสถาบันเพื่อการวิจัย มีสำนักหรือมีศูนย์ หรือหน่วยงานที่ เรียกชื่ออย่างอื่นเพื่อส่งเสริมวิชาการตามวรรคสองของมาตรา 8 ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยวิทยาลัย ตามมาตรา 30 มาตรา 31 และมาตรา 32 วรรคหนึ่ง มาใช้บังคับโดยอนุโลม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภา นิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 23) พ.ศ.2521"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น ไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกข้อ 22 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2520
มาตรา 4 ให้ยกเลิกความใน (22) ของมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2520 และให้ใช้ความต่อไป นี้แทน "(22) เงินได้จากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย"
มาตรา 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นบทนิยามในมาตรา 77 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่ม เติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2508 ""สมาชิก" หมายความว่า สมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย"
มาตรา 6 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 78 โสฬส แห่งประมวลรัษฎากร "มาตรา 78 โสฬส ในกรณีการขายหลักทรัพย์ตามประเภทการค้า 3. ให้สมาชิกที่เป็นตัวแทน ของผู้ขายหักภาษีจากเงินที่ขาย และชำระภาษีแทนผู้ขายในนามของตนเอง โดยผู้ขายไม่ต้องยื่นแบบ แสดงรายการการค้าอีก และให้ถือว่าสมาชิกเป็นผู้ประกอบการค้าในกรณีนี้ด้วย"
มาตรา 7 ให้ยกเลิกความใน (12) ของมาตรา 79 ตรี แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งแก้ไขเพิ่ม เติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 20) พ.ศ.2513 และให้ใช้ความ ต่อไปนี้แทน "(12) การค้าของผู้ประกอบการค้า ที่มิใช่เป็นผู้นำเข้า ผู้ส่งออกหรือผู้ขายตามประเภทการค้า 3. เฉพาะในเดือนภาษีที่มีรายรับรวมกันไม่ถึงสองพันบาท"
มาตรา 8 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (17) ของมาตรา 39 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 20) พ.ศ.2513 "(17) การขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเฉพาะที่เป็นหน่วยลงทุนในกอง ทุนรวม พันธบัตรของรัฐบาลหรือองค์การของรัฐบาล"
มาตรา 9 ให้ยกเลิกความในมาตรา 80 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2508 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 80 ทวิ ผู้ประกอบการค้า ที่มีรายรับเฉพาะประเภทที่ระบุในมาตรา 79 ทวิ (1) (4) หรือ (5) มาตรา 79 เบญจ ประเภทการค้า 3. หรือประเภทการค้า 5. ซึ่งให้เช่าเฉพาะ เครื่องเรือนและของใช้ที่ใช้ประจำอยู่กับโรงเรือนที่ให้เช่า ให้ได้รับยกเว้นการจดทะเบียนตาม ส่วนนี้"
มาตรา 10 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นประเภทการค้า 3. ของบัญชีอัตราภาษีการค้าท้ายหมวด 4 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร แทนประเภทการค้า 3. ของบัญชีอัตราภาษีการค้า ท้าย หมวด 4 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล รัษฎากร (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2508 ผู้ประกอบ ประเภทการค้า รายการที่ประกอบการค้า การค้าที่มี อัตราภาษี หน้าที่เสีย ภาษีการค้า 3.การขายหลักทรัพย์ การขายหลักทรัพย์ตาม ผู้ขาย 0.10 กฎหมาย ว่าด้วยตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย ในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย
มาตรา 11 บรรดาบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรและประกาศของคณะปฏิบัติที่ถูกยกเลิกหรือ แก้ไขเพิ่มโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเฉพาะในการปฏิบัติจัดเก็บภาษีอากร สำหรับการขายหรือโอนโดยมีค่าตอบแทนซึ่งหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย ที่กระทำขึ้นก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 12 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรเก็บภาษี การค้าจากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทนการเก็บภาษีเงินได้บุคคล ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อขจัดความยุ่งยากในทางปฏิบัติและเพื่อให้เกิดความสะดวก รัดกุมและ แน่นอนในการเสียภาษี จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ( ร.จ. เล่ม 95 ตอนที่ 74 หน้า 438 25 กรกฎาคม 2521) |