พระราชบัญญัติ นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการอันเป็นความผิด ต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ระหว่าง วันที่ 25 และวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2520 พ.ศ. 2520 |
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2520 เป็นปีที่ 32 ในรัชกาลปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรนิรโทษกรรมในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมี พระชนม์พรรษาเจริญวัฒนามาครบ 50 พรรษาบริบูรณ์ แก่ผู้กระทำการอันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของ รัฐภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 25 และวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2520 เพื่อเป็นการ แผ่พระมหากรุณาธิคุณและให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นได้ร่วมกันทำคุณประโยชน์เพื่อจรรโลง ประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการอันเป็นความผิด ต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 25 และวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2520 พ.ศ. 2520"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 บรรดาการกระทำอันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรซึ่งได้ กระทำระหว่างวันที่ 25 และ วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2520 และบรรดาการกระทำอันเป็น ความผิดอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับหรือเนื่องจากการกระทำอันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายใน ราชอาณาจักรในระหว่างวันดังกล่าว ทั้งนี้ไม่รวมถึงการกระทำอันเป็นความผิดต่อชีวิตให้ถือว่า การกระทำนั้น ๆ ไม่เป็นความผิดอีกต่อไป และให้ผู้กระทำความผิดซึ่งถูกลงโทษในความผิดอีกต่อ ความมั่งคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ความผิดต่อเจ้าพนักงาน และความผิดฐานบุกรุก ตาม คำสั่งดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี ที่ 2/2520 ลงวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2520 และตามคำสั่ง ของนายกรัฐมนตรีที่ 4/2520 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2520 ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับโทษตาม คำสั่งดังกล่าวอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับหรือไม่ก็ตาม พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และถ้าผู้นั้นรับโทษอยู่ ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลงในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ความในวรรคหนึ่งไม่กระทบกระเทือนถึงการริบของกลางที่ได้กระทำไปแล้วตามคำสั่งของ นายกรัฐมนตรี ที่ 4/2520 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2520
มาตรา 4 การนิรโทษกรรมตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้ได้รับนิรโทษกรรมในอัน ที่จะเรียกร้องสิทธิหรือประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรี |
หมายเหตุ:-เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระชนม์พรรษาเจริญวัฒนามาครบ 50 พรรษาบริบูรณ์ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2520 ซึ่งนับเป็นอภิลักขิตสมัยที่สำคัญ และประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายและ เจตจำนงที่จะผนึกกำลังสร้างความสามัคคีของชนในชาติสมควรนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการ อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรและความผิดอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับความผิด ดังกล่าว ซึ่งได้กระทำระหว่างวันที่ 25 และวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2520 เพื่อเป็นการแผ่ พระมหากรุณาธิคุณและให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นได้ร่วมกันทำคุณประโยชน์และช่วยจรรโลง ประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น (ร.จ เล่ม 94 ตอนที่ 121 หน้า 1 3 ธันวาคม 2520) |